มองเมืองไทยของคนบ้านนอก

Powered By Blogger

วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554

ตำนานร้านกาแฟนางเงือกไซเรนกับร้านกาแฟไทย

ตำนานร้านกาแฟนางเงือกไซเรนและแล้วสตาร์บัคส์ก็เปลี่ยนโลโก้อีกครั้งในปีนี้ ค.ศ. 2011 เนื่องจากเป็นอีกก้าวสำคัญของสตาร์บัคส์ในวาระการเฉลิมฉลองครบ 40 ปีของการดำเนินธุรกิจ ตราโลโก้ใหม่ของสตาร์บัคส์เป็นการนำเสนอธุรกิจในรูปแบบใหม่ สตาร์บัคส์จำหน่ายกาแฟที่มีคุณภาพพร้อมกับผลิตภัณฑ์อีกมากมายนอกเหนือจากกาแฟ โลโก้สตาร์บัคส์ล่าสุดได้ตัดคำว่า Starbucks และคำว่า Coffee ออกไปจนหมด เหลือเพียงรูปนางเงือกไซเรนสีขาวบนพื้นสีเขียว
         สตาร์บัคส์บอกว่า ตราสินค้าโฉมใหม่ยังคงสะท้อนถึงประวัติความเป็นมาและอนาคตที่สดใส ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่ที่กาแฟ ไม่ว่าจะที่ร้านกาแฟหรือในร้านขายของทั่วไปอีกต่อไป การเน้นที่นางเงือกไซเรนและลบวงกลมออก เพื่อให้ไม่จำกัดกรอบอยู่เพียงแต่กาแฟอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ สตาร์บัคส์ยังคงเป็นธุรกิจที่เน้นด้านกาแฟเป็นหลักเช่นเดิม
         ปัจจุบัน ร้านสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ จำกัด ตั้งอยู่ที่เมืองซีแอตเติล มลรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกัน เปิดร้านไปทั่วโลกมากกว่า 16,000 สาขา ไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศอเมริกาเหนือ อังกฤษ ประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และประเทศในเขตตะวันออกกลาง
         สตาร์บัคส์ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำทางด้านการดำเนินธุรกิจกาแฟ การคั่วกาแฟ และถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟของโลก ใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายหลักเป็นร้านที่ให้บริการขายกาแฟและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกาแฟภายใต้ชื่อ 'ร้านสตาร์บัคส์ คอฟฟี่' โดยยึดนโยบาย one cup at a time, one customer at a time ให้บริการแบบพิเศษเฉพาะบุคคลเพื่อมอบ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ ในการทำกาแฟทุกแก้วให้แก่ลูกค้าทุกคน เพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด
         ตัวอย่างการปรับโฉมตราสินค้าของสตาร์บัคส์ ไม่ได้เป็นเพียงการนำเสนอสิ่งที่เป็นตัวตนของสตาร์บัคส์แต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการแสดงออกว่าบริษัทให้ความสำคัญกับพันธมิตร ลูกค้าและชุมชน
         รวมทั้งทิศทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทของตนเอง
ภาพ : พรรวี สุรมูล /  business2press.com

       ขอนำข่าวของร้านกาแฟชื่อดังของเมืองนอกมากล่าว ซึ่งร้านกาแฟในไทยแนวหน้าหลายแห่งพยายามเดินตาม เมื่อ5-6 ปีก่อนนี้ ร้านกาแฟของไทยบางแห่งมีบริการอาหารด้วย 4-5ปีแรกบูมมาก   รับพนักงานแผนกปรุงอาหาร(กุ๊ก)มากมายเพราะเปิดพร้อมกันนับสิบสาขา วันเวลาผ่านไปสถานการณ์เปลี่ยน   เริ่มนำวิธีการปรุงอาหารแบบใหม่ คือการใช้ซอสสำเร็จรูป ให้ครัวกลางผลิต(จ้างโรงงานผลิต) อ้างว่าหากทำเช่นนี้แล้วรสชาดอาหารจะเหมือนกันทุกแห่ง อาหารทุกชนิดใช้ซอสสำเร็จ ผลปรากฏว่า รสชาดอาหารกลับแย่ลง ทั้งหมดทั้งปวงก็มาลงที่พนักงานครัว เริ่มเบนเป้าหมายไปที่กาแฟแล้วให้ความสำคัญกับอาหารน้อยลง และเมื่อยอดขายอาหารลดลงก็ต้องลดพนักงาน ลดขนาดลง ไม่ขยายสาขาอีก ผู้บริหารของไทยไม่เอาแบบอย่างเขา คือเขาให้ความสำคัญพนักงานของเขาทุกระดับ ผิดกับบ้านเรา ยังห่างใกลเขาสุดกู่เลยละ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น